การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 1/2565
การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 1/2565
วันนี้ (1 เม.ย. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงาน และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกยุคใหม่ ตามเทรนด์ของเทคโนโลยีและดิจิทัล ขณะที่ ปัจจุบันระบบกำกับดูแลเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล กระจายอยู่ภายใต้หลายหน่วยงาน ดังนั้นจำเป็นที่ต้องมีการจัดการบูรณาการของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถกำหนดมาตรการ ปรับปรุงกฎหมาย และมีการจัดทำกฎหมายที่เข้มแข็ง เพื่อกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและดิจิทัล
สาระสำคัญของการประชุมวันนี้ ประชุมได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 อนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (วาระ 2565–2569) จำนวน 6 คน ได้แก่ นายชัยชนะ มิตรพันธ์ นายอุดมเกียรติ บุญวรเศรษฐ์ และนายพีรเดช ณ น่าน เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเศรษฐศาสตร์) นางสาวภัทรา โชติวิทยะกุล เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านบริหารธุรกิจ) นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านกฎหมาย) โดยที่ประชุมเห็นชอบรายชื่อบุคคลข้างต้นจำนวน 3 คน เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ นายพีรเดช ณ น่าน นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และนางสาวภัทรา โชติวิทยะกุล และให้นายอุดมเกียรติ บุญวรเศรษฐ์ ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้มีการนำเสนอรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม เกี่ยวกับการดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สิน หลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ล่าสุด บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ได้แจ้งความประสงค์ในการเช่าพื้นที่จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สำหรับจัดตั้งสถานีดาวเทียมอ้างอิงสัญญาณ RFAT เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยอยู่ในขั้นตอนขออนุมัติลงนามในข้อตกลงเช่าพื้นที่ ส่วนการเช่าพื้นที่ ณ สถานีดาวเทียมไทยคม จ.นนทบุรี กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ ในส่วนของกรณีข้อพิพาทดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ระหว่าง บมจ.ไทยคม และ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (ผู้เรียกร้อง) ซึ่งเรียกร้องว่าไทยคม 7 และ 8 ไม่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทาน กับกระทรวงดิจิทัลฯ (ผู้คัดค้าน) ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ โดยได้สืบพยานฝ่ายผู้เรียกร้องไปแล้วจำนวน 4 นัด เหลือการสืบพยานอีก 2 นัด ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ และหลังจากนั้นจะเป็นการสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้านในเดือนมิถุนายน (ทั้งสิ้น 4 นัด)
นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวว่า ได้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) โดยได้มีการอนุมัติโครงการตามมาตรา 26 (6) สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย ในส่วนของการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G จำนวน 9 โครงการ รวมวงเงินกว่า 345 ล้านบาท รวมถึงเห็นชอบการเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อรับการส่งเสริม สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือจากกองทุน ประจำปี 2565
“เมื่อเร็วๆ นี้ เรายังได้มีการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) ประจำปีงบประมาณ 65 ครั้งที่ 1 ตามมาตรา 26 (1) และ (2) วงเงิน 2,500 ล้านบาท จำนวน 4 ด้านประกอบด้วย Digital Agriculture, Digital Government & Infrastructure, Digital Manpower และ Digital Technology” นายภุชพงค์กล่าว